Monday, May 9, 2011

My Superstar [2]

Title:  My Superstar 
Couple: Yuchun x Junsu
Author: Worthy_Min
Rate: Pg15
- 2 -
            ริมชายหาดสีขาวระนาบกับพื้นน้ำสีครามใสช่างดูเป็นภาพที่งดงามในสายตาจุนซูจริงๆ แต่มันน่าจะสวยกว่านี้ที่เมื่อกี้ไม่เจอไอบ้าหลงตัวเองนั่น จุนซูบ่นพึมพำตั้งแต่กลับมาถึงที่ร้าน
            “บ่นอะไรลูก...ดูท่าต้องไปมีเรื่องกับใครมาแน่เลย” ชายสูงวัยเอ่ยถามลูกชายที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ที่หน้าร้าน
            “ครับ...พอดีมีเรื่องกับคนบ้านิดหน่อยครับพ่อ...คนบ้าอะไรน่ารำคาญจริงๆ” จุนซูบ่นเบาๆเมื่อถึงประโยคหลัง
            “ถ้างั้นพ่อขอคุยหน่อยได้มั้ย” กล่าวขึ้นก่อนจะเดินลงมานั่งข้างๆ
            “พ่อมีเรื่องที่จะต้องคุยกับลูก” จุนซูพยักหน้ารับ
            “คือว่าพอร้านเปิดได้สักเดือนนึงพ่อก็จะกลับเกาหลี...แล้วลูกก็จะต้องอยู่ทำงานที่นี่คนเดียว...”
            “จริงหรอพ่อ...ว่าอยู่แล้วเชียวถึงว่าถึงได้ให้ร้านอยู่ที่นี่...ถ้าพ่อกับแม่วางใจให้ผม...ผมก็คิดว่าทำได้ถ้าพ่อกับแม่เชื่อแบบนั้น” จุนซูหันไปยิ้มให้กับผู้เป็นพ่ออย่างเข้าใจ
            “แล้วลูกไม่คิดถึงเรื่องเรียนต่อมหาลัยแล้วหรอลูก...แล้วลูกมั่นใจนะว่าอยู่คนเดียวได้” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามย้ำครั้งที่สองเพื่อความแน่ใจ ก็ลูกชายคนเล็กของบ้านต้องจากบ้านมาทำงานที่ต่างเมืองคนเดียวอีกทั้งเพิ่งจะจบไฮสคูลหมาดๆ
            “ครับพ่อ...ทำงานก่อนแล้วค่อยเรียนก็ได้หนิครับในโลกนี้ไม่มีใครแก่เกินที่จะเรียนครับพ่อ...อีกอย่างที่พ่อกับแม่ให้ผมทำงานที่นี่คนเดียวก็เหมือนเป็นการเรียนเหมือนกันแหละครับ” จุนซูเอ่ยอย่างเข้าใจ ผู้เป็นพ่อจึงโล่งใจ
            “โอเคถ้าลูกคิดได้แบบนั้นพ่อก็โล่งใจ...งั้นก็เตรียมตัวพรุ่งนี้เราจะเปิดร้านวันแรกพนักงานของเราก็เป็นจากคนที่ร้านเก่าส่วนหนึ่งแล้วเราก็รับพนักงานเข้ามาอีกส่วนหนึ่งพ่อหวังว่าภาษาที่ลูกนั่งฝึกนั่งท่องทุกวันมันคงจะช่วยร้านได้เยอะนะลูก” ผู้เป็นพ่อพูดฝากความหวังไว้ที่ลูกชายคนเล็ก จุนซูเองก็ดูท่าจะไม่มีปัญหาอย่างน้อยพนักงานส่วนหนึ่งก็เป็นคนเกาหลีเค้าจึงไม่มีปัญหา เว้นก็เสียแต่ว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะต้องเป็นคนดูแลร้านทั้งหมดนี่แหละ

+-+-+-+-+- My superstar +-+-+-+-+

            “หายไปไหนมาชั้นตามนายจนทั่วโรงแรมอยู่แล้ว...จะไปไหนทำไมไม่ยอมบอกกันบ้าง” เสียงผู้จัดการและน้องชายตัวแสบเอ่ยตวาดเมื่อยูชอนเดินเข้ามาในห้องพักของโรงแรม
            “อย่าพูดมากนักได้มั้ยยูฮวานแล้วก็นายด้วย...แจจุง” ยูชอนตวาดใส่น้องชายและผู้จัดการ
            “น้อยๆหน่อยยูชอนนายลืมไปแล้วหรอว่านายเป็นใครจะไปไหนมาไหนก็หัดระวังตัวซะบ้าง” แจจุงพูดว่า
            “อะไรของนายหละจะให้อยู่แต่ในห้องรึไง...แล้วแบบนี้จะมาทำไมชั้นเป็นคนนะไม่ใช่ปลากระป๋องจะได้อยู่แต่ข้างในออกไปไหนไม่ได้” ยูชอนตะคอกใส่แจจุงเพื่อนซี้ที่ผันตัวมาเป็นผู้จัดการเพราะยูชอนไม่ต้องการคนแปลกหน้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวจึงเลือกเอาเพื่อนซี้มาเป็นผู้จัดการเสียเอง
            “พี่ก็ทำตามที่พี่แจจุงบอกเหอะ...จะเถียงทำไมนักหนา” ยูฮวานเริ่มพูดขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่ายูชอนเริ่มอารมณ์เสียใส่แจจุงทั้งๆที่ตั้งแต่เดินเข้ามาคนที่โมโหน่าจะเป็นแจจุงมากกว่า
            “เออ...เข้าข้างกันเข้าไปสองคนเนี่ย...คอยดูเถอะชั้นจะดันให้สองคนเป็นดาราแบบชั้นทีนี้คอยดูสิว่าจะทำยังไง” ยูชอนพูดประชด ก่อนจะเดินมาเอนกายที่โซฟานุ่มที่ยูฮวานและแจจุงนั่งอยู่
            “แล้วไงออกไปไหนมา” แจจุงเอ่ยถาม
            “ก็ไปนั่งเล่นที่สระน้ำ...มันเบื่อๆไม่มีอะไรทำ” ยูชอนพูดพลางถอนหายใจ
            “นึกว่าพี่จะออกไปจีบสาวแล้วเค้าไม่เล่นด้วยซะอีก...เห็นเข้ามาก็หน้าบึ้งเชียว” ยูฮวานแซว
            “สาวบ้าสาวบออะไรหละ...เออพูดแล้วนึกขึ้นได้เลย” ยูชอนพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
            “อะไรของนายนึกอะไรได้” แจจุงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
            “เมื่อกี้เจอคนเกาหลีคนนึงด้วยแหละ” ยูชอนเอ่ย
            “นั่นไงซวยแล้วมั้ย...แล้วเจอกี่คนมาเยอะมั้ยแล้วนายถ่ายรูปกับเค้ารึเปล่า” แจจุงรัวคำถามออกมาชุดใหญ่เพราะกลัวว่ายูชอนจะเป็นข่าว
            “ถ่ายอะไรหละชื่อชั้นเค้ายังไม่รู้จักด้วยซ้ำ...คนบ้าอะไรเพิ่งย้ายมาเมื่อวานแท้ๆแต่กลับไม่รู้จักคนอย่างชั้น...อีกอย่างมีการทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้ชั้นอีกสงสัยอยากจะเจออีก...แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก” ยูชอนพูดพลางหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา
            “อะไรนะเค้าไม่รู้จักนาย...เป็นไปได้ยังไง” แจจุงถามด้วยความสงสัย
            “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน...ที่สำคัญดูท่าจะเป็นเด็กไฮสคูล...อีกอย่างแถมปากร้ายไม่ใช่เล่นเลย” ยูชอนเล่าให้แจจุงกับยูฮวานฟัง ทั้งแจจุงและยูฮวานก็ต่างงงเช่นเดียวกัน เพราะในตอนนี้ทั่วทั้งเกาหลียูชอนเป็นคนดังที่ใครๆก็รู้จัก ทุกเพศทุกวัยเพราะฝีมือการแสดง และใบหน้าหล่อสะดุดตา
            “แบบนี้ก็ดีชั้นว่าสงสัยจะเป็นพวกเด็กเรียนมากแน่เลย...เด็กพวกนี้จะสนใจแต่เรื่องเรียนเรื่องอื่นไม่สนใจทั้งนั้น...อย่างนี้ค่อยโล่งอกไปที” แจจุงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
            “นั่นสิสงสัยจะเด็กหัวกะทิ” ยูฮวานเสริม
            “งั้นวันนี้พักผ่อนให้เต็มที่เพราะพรุ่งนี้มีถ่ายตอนแปดโมงเช้า” แจจุงหยิบดูตารางงานก่อนจะเอ่ยให้ยูชอนฟัง
            “โห...แปดโมงเช้าจะบ้ากันใหญ่แล้วจะถ่ายอะไรแต่เช้าคืนนี้กะจะไปนั่งดริ้งท์สักหน่อย” ยูชอนเอ่ยบ่น
            “โหพี่รักษาภาพพจน์หน่อยเหอะ...คอยดูนะถ้ากลับเกาหลีผมจะฟ้องแม่” ยูฮวานเอ่ยขู่ยูชอนที่บ่นเมื่อครู่
            “แล้วทีนี้เอายังไงเรื่องโทรศัพท์ของคนนั้นเค้าหละ” แจจุงพูดขึ้น
            “พรุ่งนี้เค้าคงมาเอามั่ง...เค้ารู้ว่าชั้นพักอยู่ที่นี่” ยูชอนพูดพลางสายตาจ้องมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ
            “ถ้าเค้ามาเอาก็รีบคืนๆไปซะจะได้หมดเรื่องหมดราวสักที” แจจุงเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปนอนพักในห้องนอน ส่วนยูชอนและยูฮวานก็นั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา

            เช้าวันต่อมา
            “พี่ยูชอนตื่นได้แล้วหกโมงแล้วนะ...มัวนอนอยู่ได้เดี๋ยวก็ไปไม่ทันกองถ่ายหรอก” ยูฮวานเอ่ยตะโกนเมื่อพี่ชายายังคงนอนไม่รู้ร้อนรู้หนาว
            “อืม...ตื่นแล้ว” ยูชอนงัวเงียตอบขึ้นเพื่อให้ยูฮวานเลิกแหกปากสักที
            “รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ววันนี้เป็นฉากที่นายต้องพาทิฟฟานี่ไปกินข้าวจากนั้นก็ไปเดินเล่นริมหาดแล้วก็...” ยูชอนรีบขัดขึ้น
            “โอ๊ย...เมื่อไรหนังเรื่องนี้จะถ่ายจบสักทีเบื่อจริงๆเลยนายไม่น่ารับเล่นเรื่องนี้เลยแจจุง”
            “ทำไมหละดีออกนายก็ชอบไม่ใช่หรอที่นี่หน่ะ...ยังจะมาบ่นอีก” แจจุงว่ากลับ
            “ไอดีก็ดีอยู่แต่ที่ชั้นเบื่อก็คือยัยทิฟฟานี่นั่นแหละ...เป็นนางเอกในเรื่องยังพอว่าในเรื่องยังมาต้องแต่งงานกันอีกแล้วมาถ่ายฉากฮันนีมูนบ้าบออะไรที่นี่...ชั้นกะว่าชั้นมาจะมาฮันนีมูนกับคนที่ชั้นรักจริงๆ...อีกอย่างดูท่ายัยนี่จะชอบชั้นอีกด้วย” ยูชอนบ่นออกมาเมื่อชักเริ่มทนไม่ไหว เพราะตั้งแต่ถ่ายหนังเรื่องนี้มายูชอนก็มีข่าวว่าเป็นแฟนของทิฟฟานี่ตลอดทำให้ยูชอนไม่พอใจเป็นอย่างมาก
            “นั่นสิน๊า...ก็นายมันหล่อนี่หน่ายูชอนเอาน่ามีคนชอบก็ยังดีกว่ามีคนเกลียด” แจจุงรีบพูดเปลี่ยนเรื่องก่อนจะดึงร่างูชอนให้ลุกขี้นไปอาบน้ำ
            “พี่สองคนไปกองถ่ายส่วนผมจะออกไปเที่ยว....ดูท่าที่นี่สวยมากๆเลย...พี่ว่ามั้ยพี่แจจุง” ยูฮวานเอ่ยถามเมื่อมือหนาเปิดม่านเผยให้เห็นทะเลสีฟ้าครามใส จนยูฮวานอดที่จะชมไม่ได้
            “พี่ก็ว่างั้นถึงว่ายูชอนมันถึงชอบที่นี่เอาซะมากๆ...เอ่อนี่ยูฮวานไปเที่ยวไหนก็อย่ากลับดึกหละพี่ไม่อยากจะแก้ตัวกับคุณป้าว่านายออกไปเหล่หญิงแล้วไม่ยอมกลับบ้าน” แจจุงเอ่ยแซว
            “โธ่พี่เหล่หญิงอะไร...ผมพูดกับเค้ารู้เรื่องหรอพี่” ยูฮวานส่ายหน้าอาดๆก่อนจะเดินเข้าห้องไป
            “ผู้กำกับลีครับวันนี้จะไปถ่ายที่ไหนหรอครับเนี่ยเดินแบบเนี่ย” ยูชอนเอ่ยถามเมื่อสถานที่ที่มาถ่ายทำดูไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก
            “เอาล่ะยูชอนทิฟฟานี่...เราจะถ่ายฉากที่เธอสองคนเดินริมหาด...ส่วนนายยูชอนหลังจากเดินจูงมือแล้วนายก็หยุดตรงต้นมะพร้าวนั่นแล้วก็โอบเอวทิฟฟานี่ไว้...แล้วนายก็พูดตามบทจากนั้นนายก็จูบทิฟฟานี่ซะแล้วก็ท่องบทตอนสุดท้าย...โอเคมั้ย” เสียงผู้กำกับเอ่ยสั่ง ยูชอนและทิฟฟานี่พยักหน้าเพื่อตอบรับ ยูชอนรีบเดินตรงมาหาแจจุงทันที
            “แจจุง...นายได้ยินที่ผู้กำกับสั่งมั้ย” ยูชอนเอ่ยถาม
            “ทำไมผู้กำกับลีว่าไง” แจจุงถามกลับ
            “ก็เค้าให้ชั้นจูบกับยัยทิฟฟานี่น่ะสิ...คราวนี้ได้เป็นเรื่องแน่” ยูชอนหัวเสีย
            “เอาน่าอย่างน้อยแฟนๆนายก็เข้าใจว่ามันคือการแสดง” แจจุงเอ่ยปลอบเมื่อเห็นเพื่อนหัวเสีย หลังจากนั้นยูชอนและทิฟฟานี่เข้าฉากนั้นกันอยู่หลายเทค เป็นเพราะว่ายูชอนเองไม่ค่อยพอใจเลยทำออกมาได้ไม่ดี ส่วน ทิฟฟานี่เองก็แอบชอบยูชอนจึงทำให้เวลาเข้าฉากไม่กล้าทำเต็มที่เพราะว่าเขิน
            “ตั้งใจหน่อยยูชอน” เสียงผู้กำกับลีเอ่ยขึ้นเมื่อยูชอนพลาด
            “ครับ” ยูชอนตอบกลับ จากนั้นไม่นานก็ถ่ายฉากนั้นเสร็จ แค่ฉากนั้นก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง ทั้งกองเลยแยกย้ายไปกินข้าวก่อน
+-+-+-+-+- My superstar +-+-+-+-+

            “พ่อครับร้านเราเปิดวันแรกแต่ทำไมคนถึงได้เต็มร้านขนาดนี้หล่ะพ่อ” จุนซูเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าตั้งแต่เปิดร้านมาคนก็เต็มร้านตลอด
            “ก็คนไทยที่เป็นแฟนๆของยูชอนเค้าอ่านบทสัมภาษณ์ของยูชอนว่าร้านอาหารที่เค้าชอบมากที่สุดคือร้านเราไงลูก...แฟนๆเค้าก็เลยตั้งใจจะมาร้านของเรา” ชายสูงวัยเอ่ยตอบ
            “ไอบ้านั่นมันชอบร้านชั้นหรอเนี่ย” จุนซูเอ่ยเบาๆ
            “เอาลูกอย่ามัวแต่เหม่อออกไปต้อนรับลูกค้าเร็วคราวนี้มากันเยอะเลย” ชายสูงวัยพูดพลางใช่สายตาสั่งลูกชาย
            “สวัสดีครับมิสซารังยินดีต้อนรับครับ(ภาษาไทย)” จุนซูเอ่ยต้อนรับก่อนก้มหัวลงน้อยๆ
            “แจจุงร้านนี้มาเปิดที่นี่ด้วยหรอ...ชั้นไม่เห็นรู้” ยูชอนเงยหน้ามองป้ายร้านก่อนจะหันไปเอ่ยถามแจจุงก่อนจะเดินเข้าร้านไป
            “รับอะไรดีครับ(ภาษาไทย)” จุนซูยืนเมนูให้ทั้งสอง ก่อนจะจ้องมองหน้ายูชอนที่ใส่แว่นตากันแดดและหมวกไหมพรมเพื่อพลางตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านี่คือยูชอน แล้วรีบเดินหนีไปแล้วให้พนักงานคนอื่นมารับออเดอร์แทน แต่แทนที่จะหมดปัญหาแต่ปัญหากลับมากขึ้นเมื่อพนักงานคนที่รับออเดอร์ก็เป็นแฟนของยูชอนเช่นกัน
            “พี่ยูชอนรึเปล่าค่ะ” พนักงานสาวเอ่ยถามเมื่อยูชอนเงยหน้ามาเพื่อสั่งอาหาร
            “เอ่อ...น้องจำผิดแล้วครับ” แจจุงรีบเอ่ยตอบกลับไป
            “ไม่ผิดหรอกค่ะ...ส่วนพี่ก็ผู้จัดการแจจุงใช่มั้ยค่ะ” พนักงานสาวเอ่ยถามย้ำ
            “เอ่อ...ไปเอาอาหารเสริ์ฟที่โต๊ะนู้นก่อนไป” จุนซูเดินเข้ามาขัด ก่อนพนักงานจะเดินไปทำตามที่จุนซูบอก
            “นั่นไงเกือบซวยแล้วมั้ย...ดีนะที่เจ้าของร้านช่วยไว้ทัน” แจจุงเอ่ยอย่างโล่งอก
            “ตกลงจะกินอะไรสั่งมาสิ...นั่งบื่ออยู่ได้เดี๋ยวก็ได้ป่าวประกาศทั้งร้านหรอก” จุนซูเอ่ยกวนๆ
            “นี่นายเป็นเจ้าของร้านภาษาอะไรหัดทำตัวกับลูกค้าให้มันดีๆหน่อยสิ” ยูชอนที่นั่งอ่านเมนูรีบเงยหน้าขึ้นมาต่อว่าแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นจุนซู
            “นี่นาย...เป็นพนักงานที่นี่หรอ” ยูชอนเอ่ยถาม
            “พนักงานบ้าอะไรยูชอน...นี่เจ้าของร้าน” แจจุงพูดพลางชี้ไปที่ป้ายชื่อของจุนซู
            “อ่อ...ชื่อ คิม จุนซู งั้นหรอ” ยูชอนอ่านที่ป้ายชื่อ
            “แล้วไง...ไม่ยักรู้ว่านายชอบร้านชั้น” จุนซูเอ่ยถามกวนๆ
            “ถ้าชั้นรู้ว่าเป็นร้านของนายชั้นคงจะไม่ชอบหรอก...อีกอย่างเรื่องโทรศัพท์นายหน่ะไว้ชั้นจะคืนให้ทีหลังก็แล้วกัน...วันนี้ชั้นมีถ่ายเลยไม่ได้เอามาด้วย” ยูชอนตอบ
            “ก็ดีที่นายยังไม่ลืมว่าไอมือถือเครื่องนั้นมันเป็นของชั้น...เอาจะกินอะไรก็สั่งมา” จุนซุรีบพูดตัดบทเพราะกลัวว่าพนักงานในร้านจะสงสัย ยูชอนและแจจุงสั่งอาหารก่อนที่จุนซูจะเอาออเดอร์ส่งให้พ่อครัวในร้าน
            “พ่อครับ...ไอดาราอะไรที่พ่อว่าเค้ามาที่ร้านเรา...ดีนะที่นั่งหลบมุมอยู่ข้างในสุดนู้น” จุนซูพูด
            “งั้นหรอลูกถ้างั้นถ้าเค้ากินเสร็จลูกก็ถ่ายรูปกับเค้าเราจะได้เอารูปมาติดที่ร้านว่ายูชอนเคยมาที่นี่...แบบนี้แฟนๆของยูชอนคงมากันเยอะกว่านี้” ชายสูงวัยเอ่ยขึ้นอย่างเป็นหลักการ
            “ทำไมต้องเป็นผมหละ...พ่อก็ไปถ่ายเองสิครับ” จุนซูเริ่มบ่น
            “ก็พ่อไม่ได้ดูแลที่นี่ตลอดนี่...ลูกนั่นแหละต้องถ่ายกับเค้า” จุนซูบ่ายหน้าหนี ก่อนจะลุกไปที่โต๊ะของยูชอน
            “นี่จุนซูมาก็ดีขอชาเขียวที่หนึ่งสิ” ยูชอนเอ่ยเมื่อเห็นว่าจุนซูเดินมาที่โต๊ะ
            “ชั้นไปสนิทกับนายตั้งแต่เมื่อไรถึงเรียกชื่อชั้นแบบนั้น” จุนซูเริ่มหงุดหงิด
            “อย่าพูดกับลูกค้าแบบนั้นสิ...ไม่ดีเลยนะ” ยูชอนทำท่าทางส่ายนิ้วชี้ไปมา จุนซูเริ่มประสาทเสีย จุนซูเดินไปเอาชาเขียวมาให้ยูชอน
            “นี่นายกินเสร็จชั้นขอถ่ายรูปคู่กับนายหน่อยสิ” จุนซูเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก
            “นั่นไง...เห็นมั้ยชั้นว่าแล้วว่านายชอบชั้นแต่ทำเป็นวางฟอร์ม” ยูชอนเอ่ยแซว
            “อะไรถ้าพ่อไม่สั่งมาชั้นไม่มีทางทำเด็ดขาดหรอก...อย่างนายหลงตัวเองจะตายชั้นหล่ะสงสารคนที่ชอบนายจริงมีดีตรงๆไหนเนี่ย” จุนซูตวาดอย่างหัวเสีย ก็เพราะนิสัยไม่เคยยอมใคร และเมื่อเจอคนที่ไม่ถูกชะตาก็อย่าหวังว่าจะคุยดีด้วย
            “นายสองคนพอได้แล้วอยากไห้เป็นเรื่องรึไง...คนเริ่มหันมามองแล้วนะ” แจจุงตวาดเมื่อเห็นว่าทั้งคู่เริ่มก่อศึกย่อมๆขึ้น
            “โอเคๆชั้นไม่อยากจะเถียงกับนายที่นี่เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่...แค่นายแกล้งทำเป็นไม่รู้จักชั้นแล้วยังมาขอถ่ายรูปมันก็เป็นเรื่องมากพอแล้ว” ยูชอนเอ่ยกวนๆกลับ
            “เป็นเรื่องงั้นหรอ...ก็ดีงั้นไม่ถ่ายแล้วรูปอะไรนั่นหน่ะ...ไม่มีนายร้านชั้นก็อยู่ได้อย่ามาคิดว่าตัวเองวิเศษนักเลย...นายคิดว่านายเป็นใครมันก็คนเหมือนกันนั่นแหละ” จุนซูเอ่ยตะคอกก่อนจะเดินเข้าไปในครัวทันที
            “อะไรกันลูกเสียงดังเชียว” ชายสูงวัยเอ่ยถามเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเมื่อครู่
            “ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อ...ผมขอตัวก่อนนะครับ” จุนซูรีบพูดก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องเพื่อสงบสติอารมณ์    “มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายสูงวัยเดินมาที่โต๊ะของยูชอนแล้วถามขึ้น
            “อ่อ...ครับผมขอโทษแทนยูชอนด้วยครับ...เค้าเป็นคนแบบนี้แหละครับชอบพูดให้คนอื่นโมโห” แจจุงเอ่ยขอโทษและก้มหัวเป็นการใหญ่ ยูชอนเองก็ทำตามเช่นกัน
            “ไม่เป็นหรอกครับจุนซูเองก็เป็นเด็กแบบนี้แหละ...พอมีคนพูดไม่ถูกใจก็จะโมโหแบบนี้...อย่างไงก็อย่าไปถือสาจุนซูเลยนะครับ” ชายสูงวัยเอ่ยขอโทษแทนจุนซูเช่นกัน
            “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณลุง...ผมรู้ว่าเด็กวัยนี้อารมณ์มักจะแปรปรวน....ผมไม่รู้นะครับว่าคุณลุงมาเปิดร้านที่นี่” ยูชอนเอ่ยตอบก่อนจะถามกลับบ้าง
            “อ่อ...จุนซูเค้าชอบที่นี่อีกอย่างจุนซูเองก็เป็นคนเอ่ยปากที่จะเป็นคนดูแลที่นี่...ลุงก็คงขัดอะไรเค้าไม่ได้” ยูชอนพยักหน้า
            “อายุคงต้องเท่าน้องชายผมแน่เลย...เด็กวัยนี้อารมณ์แบบนี้ทุกคนเลย...อีกอย่างก็ดีนะครับที่ให้เค้าเป็นคนดูแลเองจะได้ฝึกให้เค้าใช้ชีวิตด้วยตนเองไม่ใช่จะพึ่งพ่อแม่ตลอดเวลา” ยูชอนออกความเห็น
            “ลุงก็ว่าอย่างงั้น...หนูมีน้องชายด้วยหรอ” ชายสูงวัยเอ่ยถามกลับ
            “ครับ...เห็นว่าวันนี้จะออกไปเที่ยวที่ไหนไม่รู้...แต่ถ้าผมบอกว่าร้านของคุณลุงมาเปิดที่นี่มีหวังเค้าคงต้องรีบมาแน่ๆเลยครับ” ยูชอนพูดยิ้มๆ
            “ลุงดีใจนะที่หนูชอบร้านของลุง...ไว้ถ้ามาที่นี่อีกก็อย่าลืมแวะมาทักจุนซูบ้างหละ” ชายสูงวัยเอ่ยยิ้มๆ
            “อ่าวทำไมหละครับ” แจจุงที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยถาม
            “ก็ลุงจะกลับเกาหลีสิ้นเดือนนี้แหละ...พวกหนูคงเจอลุงบ่อยๆที่เกาหลี...ลุงกลัวว่าจุนซูจะเหงาเลยมาอยู่เป็นเพื่อนก่อน”
            “แล้วแบบนี้จุนซูเค้าไม่เรียนต่อหรอครับ” แจจุงถาม
            “เห็นจุนซูว่าจะเรียนไปทำงานไปหรือยังไงลุงก็ไม่รู้เพราะจุนซูเองก็เป็นเด็กที่ตั้งใจ...เมื่อตั้งใจทำอะไรใครก็ไปขวางเค้าไม่ได้”
            “ดูเค้าเป็นเด็กดีนะครับ...แบบนี้คุณลุงคงภูมิใจมากแน่เลยที่มีลูกชายแบบนี้แบ่งเบาภาระได้เยอะเลย” ยูชอนพูด
            “ครับก็เหมือนหนูนั่นแหละช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านได้เยอะเหมือนกัน...งั้นลุงขอตัวก่อนแล้วกันดูท่าคนจะเริ่มเยอะแล้ว” ชายสูงวัยรีบเอ่ยตัดบทเมื่อมองไปที่ร้านคนเริ่มเข้ามาเยอะ
            “ครับคุณลุง...ถ้าผมกินเสร็จจะไปรอคุณลุงที่หลังร้านเพื่อรอถ่ายรูปนะครับ” ยูชอนเอ่ยยิ้มๆ ส่วนชายสูงวัยก็พยักหน้าเป็นการตอบ
            “พ่อไปคุยอะไรกับเค้า” จุนซูเดินมาถามผู้เป็นพ่อ
            “เอาเถอะน่าลูกเค้าก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร...ถือซะว่าเป็นเพื่อนที่จุนโฮแล้วกันลูก” เอ่ยขึ้นเมื่อจุนซูเริ่มอารมณ์ไม่ค่อยดี
            “ก็ได้ครับพ่อ...ผมจะคิดว่าไอปากเสียนั่นเป็นเพื่อนพี่จุนโฮแล้วกันครับ” จุนซูเอ่ยตอบเมื่อเห็นว่าพ่อลงทุนเข้าไปคุยขนาดนี้ก็ขัดไม่ได้ จุนซูเป็นเด็กที่รักพ่อแม่และพี่ชายมาก เพื่อความสุขของคนที่บ้านจุนซูมักจะยอมได้เสมอ แต่บางครั้งเมื่อเป็นสิ่งที่เค้าทำให้ไม่ได้จริงๆก็จะปฎิเสธทันทีใครบังคับเท่าไรก็ไม่มีทางที่จะมาสั่งได้ เรื่องนี้คนในบ้านรู้ดีรวมทั้งพนักงานในร้านที่ย้ายมาจากเกาหลีเช่นกัน

No comments:

Post a Comment